วิธีเลือกซื้อบ้านมือสอง
วิธีเลือกซื้อบ้านมือสอง
การเลือกซื้อบ้านมือสองที่ดีนั้นควรมีคุณสมบัติ อยู่ 3 อย่าง เน้นราคาถูก มีเพื่อนบ้านที่ดี และทำเลเด่น
เรามาแบ่งกันได้เป็นข้อๆดังนี้ครับ
2.สำรวจสภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้านโดยเข้าไปพูด คุยสำรวจสอบถามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในสภาพแวดล้อมควร
เน้นเลือกแหล่งที่ยังคงเจริญต่อไป และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อชีวิตประจำวัน
เช่น ใกล้โรงเรียน ศูนย์การค้า ตลาด และโรงพยาบาล
ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าน้ำจะต้องไม่ท่วมและไม่มีมลภาวะทางกลิ่น
แสง และเสียง
5.เลือกซื้อ บ้านมือสอง ที่มีเงื่อนไขเงินกู้สนับสนุน เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด หรืออัตราดอกเบี้ย 0% เพราะผลประโยชน์เหล่านี้คือส่วนลดจากราคาซื้อ บ้านมือสอง นั่นเอง
7.ต้องคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอน บ้านมือสอง ที่จะซื้อ และภาษีให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับภาระ
9.ต่อรองราคาให้ราคาต่ำมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การต่อรองราคาถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องใช้เสมอ ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายขั้นสุดท้าย ให้ระลึกไว้เสมอว่าเงินทุกบาทที่ท่านต่อรองซื้อได้ต่ำกว่าราคาเสนอขาย นั่นหมายถึงกำไรที่จะตกมาถึงท่านในที่สุดนั่นเอง
10.ตรวจสอบและขอหลักฐานเก่าๆ ที่เป็นส่วนประกอบของสัญญาเดิมเอาไว้ เพราะเอกสารเหล่านี้มีผลในการบังคับให้เจ้าของโครงการต้องปฏิบัติตามที่ตกลง หรือสัญญาที่เคยระบุไว้
11.การเลือกซื้อโดยใช้บริการของ สถาบันการเงิน จัดเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเลือกซื้อ บ้านมือสอง อย่างชาญฉลาดทางหนึ่ง เพราะเป็นช่องทางที่มีบ้านมือสอง มาให้เลือกจำนวนมากขึ้น และยังมีโอกาสได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือในด้านต่างฯ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ บ้านมือสอง ด้วย เช่น การพาไปดูบ้าน การติดต่อด้านสินเชื่อและการราคาประเมิน ซึ่งบริการเหล่านี้มักไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือหากเสียก็น้อยมาก
การเลือกซื้อบ้านมือสองที่ดีนั้นควรมีคุณสมบัติ อยู่ 3 อย่าง เน้นราคาถูก มีเพื่อนบ้านที่ดี และทำเลเด่น
เรามาแบ่งกันได้เป็นข้อๆดังนี้ครับ
1.ดูทำเล บ้านมือสอง
เน้นพื้นที่ในย่านที่กำลังมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือฟื้นฟูจากสภาพไม่น่าอยู่
3.สภาพ บ้านมือสอง
เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะมูลค่า
บ้านมือสอง นอกจากจะขึ้นอยู่กับความต้องการและปริมาณสินค้าในตลาดแล้วยังขึ้นอยู่กับ
ลักษณะตัว บ้านมือสอง เองด้วย ให้ท่านสำรวจและประเมินราคาทรัพย์สินด้วยตัวเอง
เช่น ตรวจดูขนาดทรัพย์สินว่าเหมาะสมกับการใช้ประโยชน์หรือเปล่า
สภาพทรัพย์สิน การปรับปรุงทรัพย์สิน
และการจัดการทรัพย์สิน
4.ซื้อ บ้านมือสอง
ที่ราคาค่าเช่าต่ำกว่าราคาเช่าในท้องตลาด เพราะเราสามารถเพิ่มค่าเช่าได้
5.เลือกซื้อ บ้านมือสอง ที่มีเงื่อนไขเงินกู้สนับสนุน เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด หรืออัตราดอกเบี้ย 0% เพราะผลประโยชน์เหล่านี้คือส่วนลดจากราคาซื้อ บ้านมือสอง นั่นเอง
6.สอบถามเรื่องบริการชุมชนจากเพื่อนว่างานสารธาณูป
โภคตลอดจนค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นอย่างไร การดูแลรักษาสภาพโครงการสม่ำเสมอ
และเหมาะสมหรือไม่
7.ต้องคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอน บ้านมือสอง ที่จะซื้อ และภาษีให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับภาระ
8.เปรียบเทียบกับราคาประเมินบ้านที่มีอยู่แล้ว
เช่น ราคาซื้อขาย บ้านมือสอง
ที่คล้ายคลึงในบริเวณที่ใกล้เคียง ราคาประเมินของกรมที่ดิน
ของธนาคาร และบริษัทประเมิน
9.ต่อรองราคาให้ราคาต่ำมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การต่อรองราคาถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องใช้เสมอ ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายขั้นสุดท้าย ให้ระลึกไว้เสมอว่าเงินทุกบาทที่ท่านต่อรองซื้อได้ต่ำกว่าราคาเสนอขาย นั่นหมายถึงกำไรที่จะตกมาถึงท่านในที่สุดนั่นเอง
10.ตรวจสอบและขอหลักฐานเก่าๆ ที่เป็นส่วนประกอบของสัญญาเดิมเอาไว้ เพราะเอกสารเหล่านี้มีผลในการบังคับให้เจ้าของโครงการต้องปฏิบัติตามที่ตกลง หรือสัญญาที่เคยระบุไว้
11.การเลือกซื้อโดยใช้บริการของ สถาบันการเงิน จัดเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเลือกซื้อ บ้านมือสอง อย่างชาญฉลาดทางหนึ่ง เพราะเป็นช่องทางที่มีบ้านมือสอง มาให้เลือกจำนวนมากขึ้น และยังมีโอกาสได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือในด้านต่างฯ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ บ้านมือสอง ด้วย เช่น การพาไปดูบ้าน การติดต่อด้านสินเชื่อและการราคาประเมิน ซึ่งบริการเหล่านี้มักไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือหากเสียก็น้อยมาก
เลือกทำเลบ้านมือสอง
1. ควรเลือกทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก คล่องตัว
หรือมีทางเลือกในการเดินทาง ได้หลายรูปแบบ ทีเส้นทาง เชื่อมต่อกับถนนสายอื่นๆ
หลายเส้นทาง
2. หากไม่ต้องการให้บ้านมีเสียงรบกวน อันเนื่องมาจากการจราจรวุ่นวาย ก็ควรหลีกเลี่ยงการเลือกบ้านที่อยู่ใกล้ถนนเมนของโครงการ ที่มีจุดตัดกับแยกต่างๆ ซึ่ง รถที่ผ่านไปมาจะส่งเสียงดังตลอดเวลา
3. ไม่ควรเลือกทำเลบ้านที่อยู่ก้นซอยตัน ไม่มีที่กลับรถหรือซอยแคบเกินไป การเข้าออก ไม่สะดวก หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
4. หลีกเลี่ยงบ้านที่อยู่ใกล้กับร้านค้า ร้านอาหาร หรืออาจจะมีผลกระทบในเรื่องที่จอดรถ หรือความสงบในการอยู่อาศัย
5. พยายามห่างไกลทำเลที่อยู่ใกล้กับจุดทิ้งขยะของหมู่บ้าน หรือบ่อบำบัดน้ำเสีย เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรบกวน
2. หากไม่ต้องการให้บ้านมีเสียงรบกวน อันเนื่องมาจากการจราจรวุ่นวาย ก็ควรหลีกเลี่ยงการเลือกบ้านที่อยู่ใกล้ถนนเมนของโครงการ ที่มีจุดตัดกับแยกต่างๆ ซึ่ง รถที่ผ่านไปมาจะส่งเสียงดังตลอดเวลา
3. ไม่ควรเลือกทำเลบ้านที่อยู่ก้นซอยตัน ไม่มีที่กลับรถหรือซอยแคบเกินไป การเข้าออก ไม่สะดวก หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
4. หลีกเลี่ยงบ้านที่อยู่ใกล้กับร้านค้า ร้านอาหาร หรืออาจจะมีผลกระทบในเรื่องที่จอดรถ หรือความสงบในการอยู่อาศัย
5. พยายามห่างไกลทำเลที่อยู่ใกล้กับจุดทิ้งขยะของหมู่บ้าน หรือบ่อบำบัดน้ำเสีย เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรบกวน